การทำแอนิเมชั่นมีหลายขั้นตอนค่ะ ตั้งแต่การเริ่มวาดภาพ การร่างภาพ การลงวาดภาพจริงๆในโปรแกรม การทำเคลื่อนไหว แม้กระทั้งตัดต่อรวมให้เป็นวิดีโอที่สมบูรณ์
โปรแกรมที่ 1 Adobe illustrator
โปรแกรมพื้นฐานที่นักออกแบบทุกคนต้องเรียนรู้ในการสร้างงานกราฟิกมี 2 ชนิด คือโปรแกรมประเภทวาดภาพ และโปรแกรมประเภทตกแต่งภาพ
Illustrator คือ โปรแกรมที่ใช้ในการวาดภาพ โดยจะสร้างภาพที่มีลักษณะเป็นลายเส้น หรือที่เรียกว่า Vector Graphic จัดเป็นโปรแกรมระดับมืออาชีพที่ใช้กันเป็นมาตรฐานในการออกแบบระดับสากลสามารถทำงานออกแบบต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ เว็บ และภาพเคลื่อนไหวตลอดจนการสร้างภาพเพื่อใช้เป็นภาพประกอบในการทำงานอื่นๆ เช่น การ์ตูน ภาพประกอบหนังสือ เป็นต้น
อ้างอิง: https://sites.google.com/site/khunkruoil/prawati-khwam-pen-ma-khxng-porkaerm
โปรแกรมที่ 2 Adobe Animate
เป็นหนึ่งในชุด โปรแกรม Adobe Creative Cloud นั่นเอง โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาไฟล์ภาพเคลื่อนไหวหรืออนิเมชั่นบนเว็บไซต์ ที่เรียกกันว่า "Web Animation" และยังสามารถสร้าง Interactive หรือการโต้ตอบกับผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ บนเว็บไซต์ต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งก็ได้พัฒนามาจาก Adobe Flash Professional เป็น Adobe Animate ให้ออกมาให้ใช้งานกัน พร้อมฟังก์ชั่นที่ทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น
อ้างอิง: https://itsolution.co.th/adobe-animate-2020-flash-pro.html
โปรแกรมที่ 3 Adobe Permiere Pro
เป็นโปรแกรม ที่ใช้ตัดต่อภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็น รวมไปถึงวิดีโอ แม้กระทั่งการทำงาน เกี่ยวกับเสียง ข้อความ หรือหากมีข้อมูลรูปภาพจากกล้อง ดิจิตอลอยู่แล้ว ก็สามารถนำภาพที่ได้ถ่ายไว้มาตัดต่อ เพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์สำหรับส่วนตัวได้ความสามารถในการปรับและตรวจสอบค่าสี โทนสี ความสว่างและแสงเงา ของไฟล์วีดิโอได้มากขึ้น โดยสามารถแทนที่ค่าสีแล้วเปรียบเทียบกับไฟล์เดิมได้ในหน้าต่างเดียวกัน และยังสามารถตัดต่อเกี่ยวกับระบบเสียงได้มากขึ้นAdobe Premiere Pro เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเอ็ฟเฟ็ครูปแบบต่างๆ ให้กับเสียง อีกทั้งยังเพิ่มการปรับแต่งเสียง ในระบบ 5.1 Channelนอกจากนั้นยังสามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงได้ด้วย Audio Mixer สนับสนุนการทำงานบนมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ Adobe Premiere Pro สามารถผลิตงานคุณภาพสูงได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างไฟล์คุณภาพ เช่น MPEG 2 หรือแปลงไฟล์ให้ได้รูปแบบสื่อวีดิโอที่หลากหลาย คุณสมบัติต่างๆ
การทำงานแบบ Real-Time Adobe Premiere Pro ได้เพิ่มความสามารถในการตัดต่อแบบ Real-Time กล่าวคือ สามารถตัดต่อ ตกแต่งและดูผลงานที่สร้าง ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำการRender ก่อน ไม่ว่าจะใส่ Transition การทำ Motion Path หรือการทำเอ็ฟเฟ็คต่างๆ ก็ตามเราสามารถดูผลการปรับแต่งได้ที่หน้าจอแสดงผลควบคู่กับการตัดต่อพร้อมกันได้ และสามารถทำงานได้หลายซีเควนส์บนหน้าต่าง Timeline เดียว Adobe Premiere Pro เปิดโอกาสให้เราตัดต่องานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น โดยสามารถเพิ่มซีเควนส์ และยังทำงานได้อย่างไม่จำกัดบนหน้าต่างTimeline เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบรูปแบบของงานตัดต่อแต่ละชิ้นงานได้ทันที
อ้างอิง: https://sites.google.com/site/thiwahnam0426/prawati
Comments